การเรียนรู้อักษรพิเศษในภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น
การเรียนรู้อักษรพิเศษในภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น
อักษรพิเศษ (Special characters) เป็นอักขระเพิ่มเติมที่ใช้ในภาษาอังกฤษ เพื่อบอกความหมายหรือเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากผู้เรียนไม่รู้จัก จะทำให้เข้าใจและการสื่อสารไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ในบทความนี้จะเน้นเรียนรู้อักษรพิเศษที่ใช้ในภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น อธิบายว่าอะไรคืออักษรพิเศษ ทำไมต้องรู้จักอักษรพิเศษ และวิธีการเรียนรู้อักษรพิเศษ
คำถามแรกคือ อะไรคืออักษรพิเศษ ในภาษาอังกฤษ
อักษรพิเศษ เป็นอักขระที่ไม่ใช่ตัวอักษรตามปกติ ซึ่งเราพบเห็นบ่อยๆ ในการเขียนอีเมล การแชท หรือแม้กระทั่งแสดงความคิดเห็นในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
อีกหนึ่งประเภทของอักษรพิเศษที่เราควรรู้จักคือ อักขระปรับแต่ง (Formatting character) ซึ่งใช้ในการตกแต่งหน้ากระดาษ เช่น ตัวหนา (Bold) ตัวเอียง (Italic) และใช้ในการแสดงผลต่างๆ
ทำไมต้องรู้จักอักษรพิเศษ
การใช้งานอักษรพิเศษ จะช่วยให้ความหมายของประโยค หรือคำในภาษาอังกฤษมีความชัดเจนขึ้น ทำให้สื่อสารได้รวดเร็วและไม่เกิดความสับสน จึงทำให้การใช้งานอักษรพิเศษเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
อีกทั้งอักษรพิเศษยังมีประโยชน์ในกรณีที่เราต้องเขียนเอกสารภาษาอังกฤษที่มีจุดประสงค์ในการสอบผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องพิมพ์เป็นตัวเลขเหมือนกับรหัสบัตรประชาชนหรือรหัสในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะอักษรพิเศษสามารถใส่ได้ในช่องที่จำกัดตัวอักษรไว้ การใช้งานอักษรพิเศษเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษควรรู้
วิธีการเรียนรู้อักษรพิเศษ
หลักการแนะนำในการเรียนรู้อักษรพิเศษคือ ฝึกจดจำและฝึกใช้ โดยเริ่มจากการฝึกจดจำรูปแบบของอักษรพิเศษ นำมาฝึกเขียนและใช้ในประโยคง่ายๆ ไปจนถึงระดับที่แขนของเราเคลื่อนไหวตามความต้องการได้โดยไม่ต้องฝึกให้สมบูรณ์ก็ได้ ยิ่งฝึกฝนเป็นเวลานาน จำได้เร็วๆ
นี่คือตัวอย่างอักษรพิเศษที่ควรจะรู้
1. @ (at) – อ่านว่า “เอท์” มักรับรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่าหมายถึงที่อยู่อีเมล
2. # (hashtag) – ผู้เรียนภาษาอังกฤษควรรู้จักทำไม่ใช่สำหรับการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้นแต่ยังเป็นเครื่องหมายยอดฮิตสำหรับแท็กแฮช
3. $ (dollar sign) – ซึ่งอ่านว่า “ดอลลาร์ไซน์” เป็นเครื่องหมายของเงินตราสหรัฐอเมริกา
4. % (percent) – สัญลักษณ์ของเปอร์เซ็นต์ใช้บ่อยเพื่อแสดงหน่วยเปอร์เซ็นต์
5. ^ (caret) – มักใช้สำหรับแสดงการยกเลิกตัวอักษร ทำให้เมื่อข้อความไม่สมบูรณ์และต้องตีกลับ เช่นกันกับการใช้งานเครื่องหมายเว้นวรรค ^v แทน [ Backspace ] + [ Space Bar ]
6. & (ampersand) – อ่านว่า “แอมแพนด์” มักใช้ในการแทนคำในภาษาอังกฤษเช่น and
7. * (asterisk) – ใช้สำหรับการระบุหมายเลขโทรศัพท์ ดังนั้นบางครั้งเรียกว่า “หนึ่งดอกจัน”
8. ( ) (parentheses) – เรียกว่า “ปีกกา” ใช้เปิด-ปิดถือเป็นเครื่องหมายเสริมคำ
9. – (hyphen) – ใช้ในการเชื่อมคำต่างๆกัน เช่น man-eater แทนคำย่อของมหาวิทยาลัยเช่น PSU จะใช้เครื่องหมาย – เช่น PSU-KM แทน PSU Katahdin
10. + (plus) – สามารถแปลได้ว่าเพิ่มเติม จะใช้กับตัวเลขเพื่อบวกเลขหรือใช้กับคำสั่งเช่น copy + paste
สรุป
การเรียนรู้อักษรพิเศษ ในภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น มีประโยชน์มากต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะในส่วนของการอ่านหรือการเขียน การใช้อักษรพิเศษช่วยสร้างความชัดเจนให้กับข้อความ และเพิ่มค่าความสามารถในการสื่อสารระหว่างบุคคลได้ ดังนั้นผู้เรียนควรฝึกจดจำและฝึกใช้อักษรพิเศษแต่ละตัวให้เป็นประจำ จะทำให้การหาคำและการสื่อสารเป็นไปด้วยความรวดเร็วและไม่เกิดความสับสน นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากที่ต่างๆ อย่างเช่น หนังสือ อินเทอร์เน็ต และสื่ออื่นๆที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างพึงพอใจและประโยชน์อย่างมาก