ดูดวงเพื่อเข้าใจบุคคลิกภาพของคนๆ นั้น มีความสำคัญสูงมากในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจความต้องการของผู้อื่น การดูดวงหมายถึงการวิเคราะห์ระบบการประมวลผลของดวงจันทร์และดาวในสารสนเทศของเรา เพื่อหารู้ความแตกต่างในบุคลิกภาพของคนๆ นั้น ๆ ด้วยการดูดวงวันเดือนปีเกิดและชื่อนามสกุล
การดูดวงวันเดือนปีเกิด
ต้องเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบวัน เดือน ปี เกิดของผู้ที่ต้องการตรวจลองดูดวง จากนั้นจึงค้นหาค่าดวงดาว โดยจะมีดวงดาวหลัก 12 ดวงดังนี้
1. เมษ (Aries) – 21 มีนาคม – 19 เมษายน
2. พฤศจิกายน (Taurus) – 20 เมษายน – 20 พฤษภาคม
3. เมถุน (Gemini) – 21 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน
4. กรกฏาคม (Cancer) – 21 มิถุนายน – 22 กรกฎาคม
5. สิงห์ (Leo) – 23 กรกฎาคม – 22 สิงหาคม
6. กันย์ (Virgo) – 23 สิงหาคม – 22 กันยายน
7. ตุลย์ (Libra) – 23 กันยายน – 22 ตุลย์
8. พิจิก (Scorpio) – 23 ตุลย์ – 21 พฤศจิกายน
9. ยุค (Sagittarius) – 22 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม
10. มังกร (Capricorn) – 22 ธันวาคม – 19 มกราคม
11. กุมภาพันธ์ (Aquarius) – 20 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์
12. มีน (Pisces) – 19 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม
ดวงดาวคือค่าโดยทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับดาวอื่น ๆ ยกเว้นดาวอาทิตย์ ซึ่งจะมีผลต่อบุคคลิกภาพของผู้พัฒนา
1. ดวงดาวตุลย์ (Venus) – อยู่ในสนามดวงความรักและวุฒิภาวะ
2. ดวงดาวอังคาร (Mars) – อยู่ในสนามดวงความมีเหนือทุกสิ่ง
3. ดวงดาวของจันทร์ (Moon) – อยู่ในสนามดวงความรัก และการเชื่อถือ
4. ดวงดาวของพื้นดิน (Earth) – อยู่ในสนามดวงความจริง
การนำดาวเหล่านี้มาวิเคราะห์จะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะบุคคลิกภาพของผู้นั้น ๆ ได้ตามความคาดหวัง โดยหากผู้นั้นอยู่ในสนามดวงความรักและวุฒิภาวะจะชื่นชอบการเก็บรักษาและรักษาความสัมพันธ์ในระยะยาว และบุคคลที่อยู่ในสนามดวงความมีเหนือทุกสิ่งจะมีลักษณะของยอดนักประชาสัมพันธ์ และสามารถช่วยเหลือในการเลียนแบบบุคคลภายนอกได้
การดูดวงชื่อนามสกุล
นอกจากการดูดวงวันเดือนปีเกิดแล้ว การดูดวงชื่อนามสกุล ยังเป็นหนึ่งในวิธีการในการวิเคราะห์บุคคลิกภาพของคน ๆ ด้วย
บุคคลภายนอกสามารถสรุปได้ว่าชื่อและนามสกุลของคนเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์และดาว และสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อดูดวงชื่อนามสกุลเพื่อเข้าใจลักษณะทางบุคคลิกภาพของคน ๆ นั้น
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือคำนึงถึงวันเดือนปีเกิดและชื่อนามสกุลของบุคคลเพื่อเข้าใจบุคคลิกภาพของเขา ๆ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเข้าใจความต้องการอย่างถูกต้องของผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงเพียงแค่การเดา แต่สามารถพูดจากมุมมองของจำนวนมากของผู้คนี่ได้ และดูเหมือนว่าเซ็นสัญญากันตามความคาดหวังในการมองเห็นและการเข้าใจในหลายๆ แง่มุมของผู้คนที่รู้จัก และอาจจะเป็นบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและฉลาดขึ้นในชีวิตประจำวัน
