“เภตรา นฤมิต ย้อน หลัง: ความเป็นมาและสารทูตของเหล่าเจ้าชาย” เป็นหนังสือสารประกอบการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย นับตั้งแต่การออกตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลงานของนายแซม ธอมส์ ที่ได้รับรางวัลอีกมากมายจากการ์ตูนนานาชาติ
เรื่องราวในหนังสือเล่าถึงชีวิตของหญิงสาวชื่อ “เภตรา” ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าชายแห่งกรุงเทพมหานครในยุคอยุติธรรม สมัยที่เอเชียฯ ยังเป็นเทวดาของโลก และพวกเจ้าชายทุกคนจะต้องต่อสู้กันเพื่อความเป็นเจ้าแห่งเมือง
เภตราเป็นสาวสวยและมีพระคุณอันมากมาย เธอมีทั้งความแข็งแกร่งและความอ่อนน้อม แต่เมื่อจะก้าวออกจากบ้านเพื่อตามความฝันของตนเอง เธอกลับถูกเข้าขังไว้ในวังเนื้อเหลืองซึ่งเป็นที่สำหรับจัดงานบุญ และใช้สิทธิ์ของเจ้าชายเพื่อทำให้เธอต้องประจำอยู่ที่นั้นตลอดชีวิต
ชีวิตของเภตราเปลี่ยนไปเมื่อเธอพบกับ “พระองค์ตาย” เจ้าชายชื่อว่า “ตรีฟางลงช้าง” ที่เคยเห็นทำเครื่องหมายครั้งหนึ่งว่าจะช่วยเหลือเธอ แต่นั้นพวกเขาฝ่ายตรงข้ามกัน จึงไม่เคยมีโอกาสพบกันอีกครั้งจนกระทั่งเธอมาตกทอดกลับในวัง
พระองค์ตาย เป็นเจ้าชายคนหนึ่งจาก “แผ่นดินไหว” เมืองยุคอยุติธรรมที่ถูกทำลายจนหมดสิ้น และพวกเขาต้องต่อสู้กับกำลังศัตรูเพื่อเอาชีวิตรอด พระองค์ตายกำลังมองหาวิธีหายใจใหม่ในชีวิตหลังความตายเกิดขึ้น เขาพบกับ “แผ่นดินปะทะ” ของมหาอำนาจวิเศษ และพวกเขาต้องการเอาเลือดเธอมาใช้สำหรับการปักหมุดคู่อนาคต
ในช่วงเวลาที่เภตราและพระองค์ตายได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาจึงต้องพบกับการขัดแย้งภายในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าแห่ง เธอเข้าใจว่าเธอต้องร่วมมือกับพระองค์ตายเพื่อกำจัดศัตรูและปกป้องแผ่นดินไหวเดียวกัน
“เภตรา นฤมิต ย้อน หลัง: ความเป็นมาและสารทูตของเหล่าเจ้าชาย” เป็นหนังสือที่เล่าถึงความรักของเจ้าชายและเจ้าหญิงในยุคอยุติธรรมที่ยังมีการต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าแห่ง และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในหนังสือจะเกิดขึ้นในยุคอยุติธรรม แต่การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังมีความหมายอย่างมากในปัจจุบัน
ผู้อ่านสามารถเห็นถึงความสำคัญของการทำความรู้จักกับคนที่ต่างกัน เพื่อพัฒนามุมมองและเข้าใจเรื่องราวในมุมมองของผู้อื่น นอกจากนี้ หนังสือยังเล่าถึงการต่อสู้เพื่อกำลังชีวิต อย่างมีหวังหาชีวิตใหม่ และความคิดถึงผู้ที่เคยสูญเสียด้วย
โดยรวมการ์ตูน “เภตรา นฤมิต ย้อน หลัง: ความเป็นมาและสารทูตของเหล่าเจ้าชาย” เป็นหนังสือที่เล่าถึงความสำคัญของความรักและการต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าแห่ง แต่ก็ยังมอบเสมือนการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเอเชียฯให้กับผู้อ่านอีกด้วย
