เรียนรู้วิธีการสร้างชื่อ เต็ม ร 5 ที่มีความเป็นเอกลักษณ์
เรียนรู้วิธีการสร้างชื่อ เต็ม ร 5 ที่มีความเป็นเอกลักษณ์
การสร้างชื่อสินค้าหรือบริษัทที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะชื่อเป็นต้นแบบที่ผู้บริโภคจะระบุจำได้และจะมองไปสู่ความเชื่อมั่นในสินค้านั้น ๆ ดังนั้น เครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญที่สุดเมื่อเป็นเรื่องของการสร้างชื่อสินค้าหรือบริษัทคือการเลือกชื่อที่มีความเป็นเอกลักษณ์เพื่อนำเสนอต่อลูกค้า ด้วยเหตุนี้ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการสร้างชื่อเต็ม ร 5 ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่สุด
1. Relevant ส่วนใหญ่แล้ว หากชื่อเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่มี จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและมีความชื่นชอบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าได้
ตัวอย่างเช่น สินค้าแปรงสีฟัน Colgate ที่มีชื่อเต็มว่า Colgate-Palmolive Company เป็นต้น โดยที่ Colgate คือนามแฝงของผู้ก่อตั้ง William Colgate และ Palmolive เป็นแบรนด์สบู่ที่ขายดีในยุคนั้น
2. Simple หากชื่อที่เลือกยาวหรือมีคำที่ยากเข้าใจ มีโอกาสที่ลูกค้าจะไม่สามารถจดจำและสื่อสารต่อกันได้อย่างมนุษย์ ดังนั้น การเลือกชื่อที่กระชับและง่ายจำเป็นต้องถูกพิจารณาอย่างละเอียด
ตัวอย่างเช่น อย่างเช่นโซเดียม (Sodium) คือชื่อธาตุที่มี 1 ชื่อและ 2 ตัวอักษร ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องก็เลยเลือกใช้ชื่อเหล่านี้ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณภาพและอยู่ในราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค
3. Memorable หากชื่อสินค้าหรือบริษัทของคุณเป็นไปตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้น จำได้ง่าย มีความกลมกลืนและคำใหม่ที่เข้าใจได้ง่าย ลูกค้าจะมีความชื่นชอบและจะมองไปสู่ถัดไป
ตัวอย่างเช่น สินค้าเสื้อกันหนาว The North Face มีชื่อที่จำได้ง่ายและมีความหมายชัดเจนว่า สินค้านี้จะช่วยเพิ่มความคงทนทานสำหรับผู้ใช้งาน
4. Distinctive หากชื่อสินค้าดังกล่าวเป็นชื่อเดียวกับสินค้าของคู่แข่งหรือมีความคล้ายคลึงกับสินค้าของคู่แข่ง อาจทำให้ความเป็นเอกลักษณ์ลดน้อยลง ดังนั้นการเลือกชื่อที่แตกต่างจะช่วยเพิ่มความพิเศษและชื่นชอบของลูกค้า
ตัวอย่างเช่น สินค้าโทรศัพท์มือถือสำหรับคนรุ่นใหม่ก็เลือกใช้ชื่อ iPhone เนื่องจากมีความแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่งและมีการติดลมบ้านบ่อย สามารถเพิ่มชื่อเสียงและความนิยมขึ้นได้
5. Scalable หากชื่อสินค้าที่คุณสร้างไม่สามารถเข้ากันได้กับสินค้าย่อยหรือสินค้าขยายขนาด เรียกว่าไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการสร้างชื่อสินค้าได้
ตัวอย่างเช่น ชื่อของบริษัท FedEx เป็นการยืดหยุ่นได้ เพราะชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อเลือกใช้ในภายหลังซึ่งสะท้อนถึงสินค้าย่อยและประเภทของบริการที่ต้องการผู้บริโภค
สรุป
การสร้างชื่อสินค้าหรือบริษัทที่มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะชื่อเป็นต้นแบบที่ผู้บริโภคจะระบุจำได้และจะมองไปสู่ความเชื่อมั่นในสินค้านั้น ๆ การเลือกชื่อที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับความนิยมและชื่นชอบจากลูกค้า อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กับสินค้า ความกระชับ ความจำได้ง่าย มีความเป็นเอกลักษณ์และยืดหยุ่นได้ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค.