AQI คืออะไร และทำไมมันสำคัญ?
AQI หรือ Air Quality Index คือหนึ่งในบริการของผู้ประกอบการทางตลาดต่างๆ ที่ใช้เพื่อวัดคุณภาพของอากาศ โดยทั่วไปแล้วจะใช้ในการวัดปริมาณของฝุ่นละอองและอนุภาคในอากาศ โดยส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการสังเกตุคุณภาพของอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อควบคุมความสะอาด หรือสำหรับการประเมินผลกิจกรรมทั้งหมดในพื้นที่ใด ๆ
การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศมีความต้องการมากขึ้นสูงขึ้น โดยเฉพาะเมืองที่มีความแออัดมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อฟื้นฟูและรักษาคุณภาพอากาศ จึงได้มีการจัดทำ AQI ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการลดวิกฤติการณ์การมลภาวะในอากาศ
AQI สามารถโอนเปลี่ยนข้อมูลเป็นสีสัน การแสดงผลในแบบต่างๆ เช่น ชั้นของคุณภาพอากาศ (level) คะแนน หรือค่าที่จะใช้ในการวิเคราะห์ โดยได้มีระบบของ AQI ที่ใช้งานอยู่แล้วทั่วโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ประกอบไปด้วย 6 ชั้นของคุณภาพอากาศคือ Excellent (อุดมสมบูรณ์), Good (ดี), Satisfactory (พอใช้), Moderately polluted (ปานกลางมลภาวะ), Poor (มีอันตราย) และ Very Poor (มีอันตรายมาก)
ในการวัดคุณภาพอากาศ AQI ต้องใช้เครื่องมือและเทคนิคการตรวจวัดอากาศที่ถูกต้อง และมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับการระบุที่มาของข้อมูลและเครื่องมือวัด ช่วงเวลาของการวัดคือตลอดวัน บางครั้งอาจมีจำนวนคนที่เข้าถึงเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวข้องร่วมกับการประเมินภาวะการมลภาวะ เช่นการจับตาชุดเครื่องมือสำหรับงานอาชีพที่มีพิษ การตรวจวัดอัตราการถ่ายเทควันและความตั้งตรงในพื้นที่เป็นร่มเงาและสามารถระบุผลกระทบของการมลภาวะได้
ทำไม AQI มีความสำคัญ?
AQI ช่วยให้เราเข้าใจและกลับดูถึงคุณภาพของอากาศ โดยสามารถใช้ในการประเมินภัยโซไลต์ในเวลาเดียวกัน และช่วยให้ทั้งหมดปรับปรุงและปรับปรุงคุณภาพของอากาศได้อย่างเหมาะสม โดยแต่ละชั้นของคุณภาพอากาศจะไปตรงกับกลุ่มสารต่างๆ ที่เข้ามาในอากาศ อาทิ โอโซน (Ozone) ยูเอ็นเอช (UNH) และโปรแตนเบิร์ก (Proteus vulgaris) ดังนั้นการที่ AQI สามารถพัฒนาที่คุณภาพของอากาศภายในเมืองได้ จึงเห็นใจได้ว่ามันมีชื่อเสียงสูงขึ้น
ทั้งนี้ AQI ยังช่วยให้ผู้เข้าถึงสามารถทราบข้อมูลโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาลงมาเก็บข้อมูลเอง(เช่นกรอกข้อมูลด้วยการวัด)โดยการใช้ AQI นั้นยังช่วยบอกเราได้ว่าเราควรประหยัดไฟฟ้าหรือไม่ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเหมือนหน่วยวัดอื่น ๆ ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของบุคคลแต่ละคน
ไม่เป็นไรหากอากาศไม่สะอาดตลอดเวลา แต่ต้องมีคิดค่าความสุขสำหรับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ดังนั้น AQI จึงมีความสำคัญอย่างมากในการผลิตผลของธุรกิจและการพัฒนาอื่น ๆ สำหรับการจัดการที่เหมาะสมและประหยัดทรัพยากรและป้องกันไม่ให้ผลกระทบของการมลภาวะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
สรุป
AQI เป็นตัวช่วยในการเข้าใจคุณภาพของอากาศ ถ้ามีตัวช่วยในการพิจารณาอากาศที่ไม่ใช่การทำการเดินทางอย่างเต็มรูปแบบ ก็ย่อมช่วยให้ผู้ใช้พร้อมจะบรรจุผลิตผลและบรรจุสินค้าที่สุด โดยไม่เสียเวลาในการเก็บข้อมูลเองและมีการปรับปรุงอย่างเหมาะสม
การรวบรวมข้อมูลอากาศและการใช้ AQI ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันและต้องการการปรับปรุงคุณภาพของอากาศได้อย่างอยู่สูงสุดซึ่งสามารถจำพวกย่อยตีและจำพวกย่อยตีอื่นๆ โดยเชื่อมโยงกับปัจจัยอื่นๆ เข้าไปด้วย เช่น ความเข้มข้นควันเมื่อเป็นแสงสว่างหรือป่าว การกำจัดล่วงหน้าหรือผลกระทบของกระบวนการเผาเพื่อลดการจับตัวของสารพิษและโปลลูชั่น
การส่งเสริมการใช้ AQI ยังมีการออกใบรับรองคุณภาพอย่างเต็มรูปแบบด้วย โดยประกอบไปด้วยแบบสอบถามลูกค้าและระบบโบนัสที่เหมาะสมในการปรับปรุงคุณภาพของอากาศและสุขภาพของผู้ใช้ทั้งหมด
ดังนั้นเห็นได้ว่า AQI น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมาก อาจจะยุ่งยากที่จะเข้าใจหรือเข้าใจเทคนิคของการทำงานแต่สิ่งสำคัญคือการรับรู้และนำมาใช้อย่างเหมาะสมเพื่อฟื้นฟูคุณภาพของอากาศและสุขภาพจากผลกระทบของการมลภาวะในอนาคตใกล้ชิดขึ้น