ลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน: เรื่องราวของชีวิตและการเปลี่ยนแปลง
ลิขิต ฟ้า ชะตา ดินเป็นสามเหลี่ยมรัศมีของชีวิตนักเขียนชื่อดังของไทย ทีว่ามากับเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อว่าต้น ที่ชื่อเสียงไม่ก็พ้องว่าถ้าหน้าตาดีร่าเริงคงจะเป็นเรื่องง่าย แต่กำลังใจอันมืดมัวของเขาจะได้รับความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับชีวิต เรียนรู้การละเลียดล้ม และแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
เรื่องราวของ ลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน ได้มีการบอกเล่าโดยนักเขียนชื่อเสียงที่ชื่อ ไพโรจน์ เบญจพิรัตน์ โดยได้ถูกนำมาแปลงเอาเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน จากหนังสือ ได้รับความนิยมอย่างสูงในสมัยนั้นและยังได้รับเกียรติจากการเป็นผลงานที่ได้รับการผลักดันให้เป็นหนังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ไทย เรื่องราวผ่านพ้นเวลากว่า 30 ปีแล้ว แต่ยังคงมีความทรงจำและสัมผัสระทึกใจกับผู้ชมจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของ ลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน หรือโคตรร้ายแต่ก็หวังดีเสน่ห์สู่เส้นชีวิตของ ต้น หนุ่มที่มุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงชีวิต แม้ว่าชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แค้มแบคกระท้อง เง้าส่อง และความอัปลักษณ์จากครอบครัวที่เขาเจ็บใจ แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะล้มละลาย และพยายามมองหาแง่บวกตลอดเวลา ด้วยการเป็นคนขยันหมั่นหมายหาชีวิตที่ดีให้กับตัวเขาเอง และครอบครัวของเขา
การเดินทางของ ต้น หนุ่มขึ้นในกลุ่มชาวบ้านจากเมืองเล็ก ๆ อย่าง ลำพูน ที่เดิมถูกต้องคายสมรสกับคนที่ใคร่ครวญ ซึ่งเป็นเหตุผลในการที่เขาจะต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ในกรุงเทพมหานคร พร้อมกับมีเพื่อนรักที่เป็นกำลังใจและเอาใจใส่อย่าง บี้ น้องสาวของรัก คนที่ทำให้เขาเชื่อว่าเขาสามารถทำอะไรได้แม้ว่าชีวิตจะอยู่น่าจะท่ามกลางความยากลำบากสุดแสน แต่เขาพยายามหาจุดประกอบการต่อสู้ชีวิตสวยงาม เพื่อให้ยืนอยู่ในชะตากรรมของการเป็นคนเก่ง และฝึกฝนให้มีความมั่นใจกับสิ่งที่เขาทำ
เรื่องราวของลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน เกี่ยวข้องกับความรัก ความผูกพัน ความเข้าใจและความอดทน ของเหล่าเพื่อนนักเรียนที่มีอายุระดับมัธยมปลาย โดยที่แต่ละคนสามารถหมุนหมากรุกกับกันได้อย่างลงตัว เช่น สำหรับแบงค์ที่มีความรักเป็นอย่างมากกับ ช้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเฉพาะของตนเอง
แต่การเป็นเพื่อนกันก็เหมือนกันที่ต้องเผชิญหน้ากับความเกเรที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งนี้ได้บ่นไปถึงถึงร่องรอยของเใจเกี่ยวกับห้องเรียน หน้าแหน่ง เพลงไทยขายดี ที่กลายเป็นเรื่องของความอัปลักษณ์ต่อกันของนักเรียนทั้งหลาย และความทุกข์ยากที่เป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ในขณะที่มีการถูกกีดกันระหว่างผู้ใหญ่เเละเด็กผู้เรียน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กล่าวถึงเรื่องราวที่สอนให้เหล่าเยาวชนเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงชีวิต เรียนรู้ระบบสังคมและพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง
ในการปรับตัวกับสังคมและการทำงาน ต้น หนุ่มได้เรียนรู้ชีวิตผ่านผลงานดอกเตอร์และซิกม่าฟิล์มฝรั่ง อาทิเช่น อันเดอร์เวิล์ด, ซองเงินงบงวด สายลับสายแทง และศึกมหากาฬพญาไท. ผู้ชมก็จะได้เรียนรู้การบ้านในทุกด้านของชีวิตแบบหนังสือและผ่านหน้าจอ เรียนรู้ว่าชีวิตนั้นเสมือนเวทมนต์เล็กน้อยที่ใช้ในการปรับตัวและมองโลกในแง่ที่ต่างกัน ผู้ชมจะเรียนรู้ว่าการมองโลกในแง่ที่แตกต่างกันไม่ได้มีแค่ดีและไม่ดีเท่านั้น แต่การมองโลกที่เป็นไปตามความจริง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในบทเรียนของลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน เห็นได้ว่าชีวิตจริงๆ หลายครั้งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรียนรู้การต่อสู้กับความผูกพันและอุปสรรคในชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการมองโลกในแง่ที่ไม่เหมือนกันและจริงจัง เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและให้ความคิดและความรู้สึกของเราเป็นสิ่งที่เราต้องการ ทั้งนี้มีผลกระทบอย่างไรกับการฝึกฝนการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตของเราในหนังสือ หรือภาพยนตร์ในอนาคต
นอกจากนี้ทางผู้เขียนขอเตือนว่าเพื่อนนักเรียนแต่ละคนในกลุ่มอาจมีสภาวะทางการเงินและสภาพอย่างมากหรือน้อยแตกต่างกัน การถ่ายทอดเรื่องราวของ ลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน ยังเปิดเผยถึงสังคมและระบบมาตรฐานที่มากมายของประเทศไทย ซึ่งได้ถูกนำเสนออย่างเจตนาดีและซื่อสัตย์ โดยเฉพาะในการปั่นพาไปสู่ความสำเร็จ วิธีการทำงานดูเหมือนจะยังคงมีความเป็นไปได้ต่อไปทั้งในการงาน หรือการเรียนและการพัฒนาตนเองในชีวิตทุกวัน ปัญหาและสถานการณ์ความทุกข์ยากที่ เขาเจอเเละแก้ไขด้วยความจงรักภักดี พาเหล่าเยาวชนมาท้าทายสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและให้โอกาสแก่ตนเอง.
แม่ว่างซึ่งเป็นคนความยากลำบากในการดูแลลูกชายต้องแย่งช่วงเวลาเต็มที่ของตัวเองในการทำงาน เพื่อให้ลูกชายสามารถเก่งได้ และรวยได้ ผู้มีเกียรติในกลุ่มชาวบ้านส่งความคิดถึงไปกับต้น เขาได้แก้ไขอาหารไม่พอให้บ้านเขานั่งกินด้วยกัน หลังจากที่สำรวจทั้ง 3 รอบของรายการมหาธุรกิจเพื่อเพิ่มเงินทุนให้กับกิจการต่าง ๆ เขาเลือกเข้าเป็นตัวแทนของบริษัทและสิ่งที่ได้รับมา ก็เป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้อีก
การปรับตัวกับสังคมและการทำงานที่ดีอย่างแท้จริงจาก ลิขิต ฟ้า ชะตา ดิน นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยาก น่ากลัวหรือไม่อยากเหมือนหลายคนคิด เพราะมันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การที่เราให้ความสำคัญต่อการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด และการปรับตัวเมื่อเราพบว่าตัวเองกำลังเจอไปรษณีย์สุดท้าย ก็จะช่วยให้เรามีสิ่งที่ให้กับตนเองที่จะช่วยทำให้เรารอดชนบทในชีวิตอย่างไร้กังวล.