เรียนรู้เกี่ยวกับบิ๊กเอ็ม: ใครเป็นบิ๊กเอ็มและประวัติของเขา
เบื้องต้นเรามาเริ่มกันด้วยคำถามกันก่อนว่า คุณรู้จักบิ๊กเอ็มหรือไม่? บิ๊กเอ็มเป็นนักร้องชาวเกาหลี ซึ่งมีชื่อจริงว่า เคิล คิม หรือ Kimberly Kim ในภาษาอังกฤษ และ Kim Myung-soo (김명수) ในภาษาเกาหลี ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เขาได้เข้าร่วมวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการ ด้วยการเป็นสมาชิกของวง Infinite ซึ่งเป็นวงดนตรีชายกระฉูดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้และจีน แต่เมื่อเริ่มปี พ.ศ. 2561 บิ๊กเอ็มได้เปิดตัวที่เป็นศิลปินซอโลน เริ่มต้นเดินหน้าสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวอย่างแท้จริง และวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561 บิ๊กเอ็มได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง “Love U Like U” ซึ่งเดินทางไปยังอินดอนีเซียเพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงและหญิงแก่ที่อยู่ในสถานที่มีพี่น้องติดโรคมะเร็ง
เมื่อเราได้รู้จักบิ๊กเอ็มแล้ว เรามาดูกันว่า เขามีประวัติอย่างไร และประสบการณ์ที่สำคัญของเขาเป็นอย่างไร
การศึกษาและการเรียนรู้ภาษาจีน
Kim Myung-soo (บิ๊กเอ็ม) เกิดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1992 ที่ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในเมืองยะลา แต่เขาเติบโตมาในผืนป่าในชานเมืองตั้งแต่เด็ก ต่อมาเขาและบิดาของเขาย้ายไปอาศัยอยู่ที่ซึ่งทอง ซึ่งอยู่ใกล้กับด่านกักกันตามแนวชายแดนกับประเทศเกาหลีเหนือ
Kim Myung-soo เข้าโรงเรียนมัธยมปลาย Taesung และศึกษาภาษาจีนเพื่อเป็นความถนัดในการแถลงข่าวหรือการมีส่วนร่วมในรายการทีวี ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับวงการบันเทิงในประเทศเกาหลี
การเข้าร่วมวงการบันเทิง
ในปี พ.ศ. 2543 บิ๊กเอ็มได้เข้าร่วมวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการเป็นสมาชิกของวง Infinite ซึ่งเป็นวงดนตรีชายกระฉูดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้และจีน และความยิ่งใหญ่ของวง Infinite ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อวงส่งซิงเกิลเพลง “Be Mine” ที่ได้รับอัลบั้มสตูดิโอลุ้นบานอีกครั้ง ในช่วงแรกๆที่เข้าสู่วงการบันเทิง บิ๊กเอ็มอาจจะมีความตื่นเต้นและกังวลไปบ้าง ในขณะที่เขาทำการออกแบบจุดประสงค์ของการประกวดอัลบั้มสตูดิโอของพวกเขาและนำเสนอเครื่องเล่นเพลงยุคใหม่ที่ดีขึ้น
กิจกรรมและประสบการณ์ส่วนตัว
นอกจากการเป็นนักร้องแล้ว บิ๊กเอ็มยังมีกิจกรรมและประสบการณ์ต่างๆ ที่ต้องบอกกล่าว เช่น กับการร่วมงานกับเครือข่ายและองค์กรต่างๆ และมีบทบาทในการแพร่ระหว่างวง ที่เป็นหน้าที่ของเขาเพื่อเป็นตัวแทนของแฟนสาวสื่อสารกับกลุ่มวง Just Be Joyful JBJ
หลังจากที่ Infinite ประกาศเดินทางไปยังญี่ปุ่นสำหรับ Infinite Second Invasion Evolution Plus (That Summer) ในสิงคโปร์ พ.ศ. 2555 บิ๊กเอ็มเริ่มมีบทบาทในการนำชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งมีอุปสรรคในการสื่อสารเนื่องจากเขาไม่เป็นพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่เขาพยายามเรียนรู้ทุกวันเพื่อเป็นที่ไว้ใจของแฟนๆของเขา
ในขณะที่ Infinity กำลังลำเลียงสมาชิกย้อนรุ่งที่ฮางเจอง บิ๊กเอ็มจัดการกิจกรรมและออกแบบกับแฟนคลับของเขา ในที่สุดเขาสบตาด้วยการเป็นผู้ดูแลโลกที่ไม่มีติดกับ YouTube ซึ่งเป็นช่องทางเพื่อเล่าเรื่องราวส่วนตัวของเขาและการติดตามกิจกรรมต่างๆ ที่เขาทำมากมายเพื่อประกอบอาชีพของเขาในวงการบันเทิง
การเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น
บิ๊กเอ็มเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ภาษาต่างๆ และภาษาญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในภาษาที่รู้สึกว่ามีชื่อเสียงและน่าสนใจ การเรียนรู้ภาษาต่างๆ จะช่วยให้เขาทำงานอย่างมืออาชีพด้วยความสามารถในการเจริญเติบโตและการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง
ทักษะและความสามารถ
บิ๊กเอ็มมีทักษะและความสามารถที่หลากหลาย โดยเฉพาะทักษะทางด้านดนตรี มีความสามารถในการเล่นกีตาร์และเครื่องประสานเสียงชนิดต่างๆ เขายังมีทักษะในการประกอบอาหารและการเต้นเตรียมตามเพลง นอกจากนี้ เขายังมีความสามารถในการดำเนินงานทางธุรกิจเป็นผู้นำและผู้ร่วมทีมที่มีประสิทธิภาพและมีอุปนิสัยวินัย
ในฐานะเป็นนักร้องชายรักษาความลับ บิ๊กเอ็มยังผ่านการอบรมในการทำสัมภาษณ์และการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแสดงสดของเขา เขาฝึกฝนฝีมือของเขาเมื่อเขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการและยังคงดำเนินการในตาข่ายให้ตัวเองไม่ต้องเปิดเผยเกี่ยวกับการชีวิตส่วนตัวของเขาอย่างได้ยาก
สิ่งที่ผมได้กล่าวถึงในบทความนี้เกี่ยวกับบิ๊กเอ็มและประวัติของเขา มิได้ครอบคลุมทุกทราบที่เกี่ยวข้องกับเขา ซึ่งบางส่วนอาจจะไม่ได้รับการแสดงในบทความนี้ แต่ทุกๆอย่างที่ได้กล่าวถึงเป็นเพียงเรื่องย่อๆ เท่านั้น สำหรับคนที่สนใจและต้องการรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กเอ็ม เพิ่มเติมข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆในช่องทางต่างๆ เช่น หนังสือเรียนภาษาเกาหลี และ YouTube เนื้อหาของคลิปที่มีคุณภาพสูงเกี่ยวกับบิ๊กเอ็มมีมากมาย หรือไม่ก็เล่นเกมส์เป็นาสนันสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทักษะอื่นๆของคุณด้วยด้วย
สุดท้ายนี้ บิ๊กเอ็มเป็นตัวอย่างที่งดงามต่อความกล้าหาญในการรับการท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนิสัยไปในชีวิตโดยทั่วไป ซึ่งหากมีความมุ่งมั่น อดทน และคะแนนเทียบที่สูงกว่า คุณยังสามารถสร้างความสำเร็จเช่นเดียวกับเขาได้แน่นอน พวกเราจะต้องรู้จักการปลูกฝังคุณภาพนี้อย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถเผชิญหน้ากับชีวิตและต่อต้านความยากลำบากในอนาคตได้อย่างเหมาะสม