ข่าวร้ายกล่าวไว้ว่าป่าเขาทับสมิงพรายอยู่ในภาวะอันตราย เป็นผลของมนุษย์ที่ไม่มีความเอื้ออาทรระหว่างการเผชิญหน้ากับธรรมชาติ แต่ข้อสำคัญกว่านั้นยังมีอีกประการหนึ่งที่ถูกต้องเตือนไว้เสมอ นั่นคือค่าลัทธิพันธุ์ควรได้รับความเคารพและอานิสงส์จากทุกคน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซานตอนที่ 253: ปราบศัตรูในตำนาน
ตำนานปรากฏขึ้นเมื่อครั้งหนึ่งในช่วงยุคราชวงศ์หมิง ที่ชาวบ้านต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดอันตรายที่อาศัยอยู่ในป่าทับสมิงพราย ภูตถังซานซึ่งเป็นหนึ่งในหมอผีเซียนชื่อดังก็ได้บันทึกการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ เขาเห็นเหตุการณ์ที่ชาวบ้านต้องดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพอันเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง และต่อมาได้มีการประกาศกำหนดขึ้นว่าทุกคนจะต้องเฝ้าระวังสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในป่าทับสมิงพราย ตราบใดที่ติดตามไม่หยุดหย่อน จึงจะหลีกหนีความอันตรายได้อย่างมั่นคง
ภูตถังซานขึ้นอยู่บนเขาเตี้ยๆโดยใช้เครื่องมือผสมผสานอย่างดีเยี่ยม เขาสามารถใส่สมอลำได้เล็กเหลือเกิน แต่ก็มีความแข็งแกร่งด้วยและได้รับการยกย่องในการตรวจสอบระบบป้องกันกลุ่มศัตรูได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ภูตถังซานยังได้ทดลองปรับปรุงเครื่องมือและเก็บความรู้ความชำนาญไว้อย่างดี เขาพบว่า การออกลักษณะแบบเป็นใบไม้หรือเป็นสัตว์ทำให้สามารถซ่อนตัวและอยู่ถูกตำแหน่งได้ในทุกกรณี เครื่องมือและประคำร้องขอความช่วยเหลือยังคงประยุกต์ใช้อย่างมากมายในการป้องกันศัตรูและต่อสู้กับพวกเขา
ภูตถังซานได้สร้างวิธีการป้องกันโดยการสร้างสรรค์เช่นการเลียนแบบเสียงเคาะที่พวกสัตว์ประหลาดใช้เมื่อทำฝูงหรือเมื่อพบบุคคลบนทางเดิน ถ้าเปลี่ยนเสียงได้อย่างถูกต้อง พวกเขาก็จะออกมาจากการป้องกันโดยใช้ความช่วยเหลือจากองค์กรของพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อถึงจุดหมายในการโจมตีตัวเอง
ปัจจุบันน่าเสียดายที่สุด เมื่อตำนานเหล่านี้ที่เกิดขึ้นจากความสามารถของคนในอดีตนั้นได้ถูกลืมไปเรื่อยๆ เพราะเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่งนาบนโลกสมมติฐาน เทคโนโลยีนี้ทำให้เราเห็นการเผชิญหน้ากับความอนาคตที่มืดมัวและไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเราทุกคนสามารถระลึกถึงรายละเอียดของตำนานนี้ได้ สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากที่นี่คือความสำคัญของความคิดริเริ่มและค่าลัทธิพันธุ์ ทุกคนในสังคมจำเป็นต้องให้ความเคารพกับสิ่งและคนที่มีประโยชน์ต่อชุมชนและทำให้ภูมิปัญญาของชุมชนเชิงอนุรักษ์ได้รับการตอบรับ ดังนั้นเราต้องทุ่มเทในการเผชิญหน้ากับอนาคตอย่างตั้งใจ ณ ขณะนี้และเชื่อมั่นในตัวเอง ด้วยวิสัยทัศน์และความคิดริเริ่มให้มากที่สุด
ในแง่ของเทคโนโลยี ความคิดของภูตถังซานสื่อสารถึงเราว่า “การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาทางทหารต้องนำมาใช้ในการป้องกันชีวิตและความเป็นอันตรายการสูญเสียภูมิปัญญาทางทหารของชุมชนโดยจะต้องให้มีการพัฒนาเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือเพื่อทีว่าจะสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง”
สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้จากตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซานนั้นคือ “การมีความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นเพื่อเป็นเจ้าของโลกจะต้องยอมรับความเป็นต่างชาติของผู้อื่นและยอมให้ถูกต้องในข้อยกเว้นได้” ซึ่งก็เป็นฮีโร่ของตำนานและพินัยกรรม ที่มีศักย์และความมุ่งมั่นในการปกป้องคนอื่นๆ และสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้อย่างมาก
ดังนั้นการใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและป้องกันไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเเละควบคุมพวกเราจะต้องคำนึงถึงรายละเอียดในการดำเนินงาน ทุกวันนี้เราเห็นว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตของพวกเรา ส่งผลให้เราต้องเป็นคนที่คิดสร้างสรรค์และคิดแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีในหมู่มนุษย์เพื่อเจริญขึ้นมา เพราะการใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยีนั้นทางบางองค์กรอาจไม่ได้อยู่แค่ในการขุดค่าข้อมูลหรือเลือกใช้เทคโนโลยีที่ถูกต้องแต่ก็ทำให้อุปสรรคจากการนำเทคโนโลยีไปใช้ผิดประเด็น ข้อหนึ่งที่เราจะต้องระมัดระวังคือต้องพยายามทำให้เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและอยู่ในระบบที่ช่วยป้องกันการละเมิดสิทธิ และเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและพื้นที่อย่างถูกต้อง
ผมหวังว่าพวกเค้าจะรู้สึกถึงความเป็นสิ่งสำคัญที่อยู่ในทุกๆด้านของการใช้เทคโนโลยีและการโยนเนื้อเรื่องผ่านตำนานแต่งมายาวนาน ตั้งแต่การตั้งคำถามว่าสิ่งที่เราลืมไปนั้นเกี่ยวข้องกับอนาคตของ AIS หรือไม่ จนกระทั่งการติดตามโพสต์ข้างต้นนี้อย่างจริงจัง ผมหวังว่าเราจะสามารถแสดงความเป็นกล้าหาญ เชื่อมั่นในความคิดในการแก้ไขปัญหาและช่วยสร้างสรรค์เป็นเกียรติ ด้วยความมุ่งมั่นและหลักการที่ถูกต้อง ในตอนท้ายขอตัดสินใจว่าเรารู้เข้าใจและรับฟังตำนานนี้หรือไม่ และใช้ประโยชน์ในข้อมูลที่ได้รับให้เกิดประโยชน์แก่การนำไปใช้ในการปรับปรุงโลกที่มีสิ่งที่ดีขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อสังคม และคุณภาพชีวิตของบุคคลทั่วไปมากขึ้น
