“โน๊ต วัชร บูล” เป็นชื่อที่คงจะไม่เป็นชื่อไม่รู้จักในวงการศิลปะภาพยนตร์ไทยแล้ว ด้วยความสามารถในการแสดงและความขยันหมายเลขที่เป็นสามารถ ในบทประดิษฐ์ของตัวเอง นักแสดงท่างิ้วของเรามีประสบการณ์เพียงเกือบ 1 ทศวรรษกับวงการภาพยนตร์ไทย แต่เคยเข้าร่วมโครงการหลายๆ งาน เช่น ภาพยนตร์ “นรก” ของกำนันสีดา และ “แฟนเก่า” ของ Bank Tangjaitrong ที่เป็น ผลงานกว่า 60 ภาพยนตร์แล้ว
ประวัติความเป็นมาของโน๊ต
“โน๊ต วัชร บูล” เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2533 ได้รับการเลี้ยงดูโดยครอบครัวพี่น้อง โดยบิดาของโน๊ตได้เกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ไทยในปีเดียวกันหลังจากแต่งงานกับแม่ของโน๊ต บิดาของโน๊ตในตอนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดการศิลปะและวัฒนธรรม น้องชายของโน๊ตเป็นมือเก๋าที่ทำงานเป็นศิลปินประติมากรและน้องสาวของโน๊ตก็ทำงานเป็นช่างแต่งหน้าและสติลิสต์ ในช่วงวัยเด็กๆ โน๊ตยังไม่ได้ย้ายถิ่นฐานหลังจากที่เกิด แต่เมื่อเข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก็ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ระหว่างที่เข้าเรียน โน๊ตถูกพบเจอโดยจิตรกรชื่อดังของไทย ครูบุญสายทองเมื่อเขากำลังวาดรูปที่โรงเรียน แต่ในตอนนั้นแต่งกายของโน๊ตไม่เหมือนเพื่อนๆ ของเขา ซึ่งครูบุญสายทองจึงเห็นเค้าและได้ผลักดันให้เข้าหาทางการแสดงที่โรงเรียนชื่อดัง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชลบุรี
การเริ่มต้นทำงานด้านการแสดง
หลังจากที่เข้ากลุ่มการแสดงของครูบุญสายทอง น้องชายของโน๊ตมีโอกาสได้เล่นบทนักเรียนในการแสดงเวทีแรกของตน เศษซากของบทบาทที่สำคัญในการแสดงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้โน๊ตคิดว่าต้องการฝึกฝนในการแสดงต่อไป นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โน๊ตได้ออกจากบ้านเพื่อไปมาเทียบท่าและได้ออกจากเมืองชลบุรีเพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ
สิ่งที่ควรจำไว้ก็คือ ในช่วงที่โน๊ตเริ่มต้นฝึกฝนการแสดงตัวเอง เขาได้พบกับอิสราเอลีทีนรอบมหาสารคาม นี่เป็นเหตุผลที่เขาได้ถึงกรุงเทพฯ และยังคงฝึกฝนตนเองในช่วงยุคเดียวกัน ในการแสดงจริงแรกของเขา นักแสดงได้รับบทสำหรับลูกหนี้ที่แวะมาที่ร้านกาแฟเพื่อเรียกเก็บเงินถูกให้ แต่ทว่าในความเป็นจริง โน๊ตไม่รู้จักเล่นกาแฟ แต่เขาแสดงได้อย่างสมจริง
การแสดงต่อไปช่วยให้โน๊ตได้ฝึกฝนหลายหลายหน้าที่ในการแสดง เขาเคยได้พบกับบทบาทที่หลากหลาย เช่นนักการเมืองหรือนักธุรกิจที่เรียกเขาไปเล่นหน้าเก่าที่มิดชิด แต่สิ่งที่โน๊ตประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือการเป็นองค์ประกอบหลักในภาพยนตร์ “นรก” ของกำนันสีดา ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องของการโลกอนาคตที่มืดมัวที่สุด โน๊ตได้รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่จับต้องความคิดได้และเป็นเสน่ห์ให้สาวน้อยหนึ่งผู้ที่มาจากอดีต กำลังมองหาวิธีที่จะหายจนไปจากกว่างโลกที่ดุร้าย บทบาทนี้ส่งผลให้โน๊ตได้รับความคิดเห็นและรางวัล ขึ้นไปอยู่ในด้านของพละกำลังก็ไม่ต่างกับการทำงานของเต็มเวลา ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2548 หลังจากพักผ่อนการทำงานหลายปี โน๊ตได้กลับมาทำงานเป็นนักแสดงอีกครั้ง
การเป็นนักแสดงภาพยนตร์ไทยของโน๊ต
หลังจากเข้ามาทำงานอีกครั้ง โน๊ตได้สิ้นสุดการฝึกฝนด้านการแสดงของตนเอง และเขาเริ่มที่จะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านบทประดิษฐ์ของตนเอง ในปี พ.ศ. 2554 โน๊ตได้รับบทหลักในภาพยนตร์ “หนี้รัก” จากผลงานค่ายหนังแสงสุดที่เป็นที่รู้จักของไทย ดังนั้นเรียกใช้งานโน๊ตในหน้าที่เป็นแมวในเวอร์ชั่นไทยของภาพยนตร์ นี่เป็นผลงานที่ได้รับคะแนนสูงจากบุคคลในวงการภาพยนตร์ไทย
อีกภารกิจหนึ่งของโน๊ตก็คือการพัฒนาตนเองเพื่อเติบโตอยู่เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงจริงๆ โน๊ตได้มีโอกาสไปยังต่างประเทศเพื่อเรียนรู้เทคนิคการแสดงของนักแสดงในต่างประเทศ ภาพยนตร์ “Shoot Me in the Heart” เมื่อปี พ.ศ. 2559 ได้เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้โน๊ตประสบความสำเร็จอย่างมากในตัวเอง เขาเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อเรียนรู้ เทียบโอกาส และได้รับประสบการณ์จริงๆ ของเขาเอง
นอกจากนี้ โน๊ตได้เป็นทุนการศึกษาจากสถาบันการศึกษายอดเยี่ยมในไทย และได้รับการจัดทำให้เป็นโรงเรียนเมืองหนาวในปี พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559 โน๊ตได้จัดการแสดงบนมุมมองที่คล้ายคลึงกับการแสดงของบุคคลธรรมดามากขึ้นเป็นเจ้าฉายภาพยนตร์ “I Fine .. Thank You, Love You” ต่อมาในช่วงท้ายของปี พ.ศ. 2559
หลังจากที่ได้ผลงานและความสำเร็จมากมาย ทั้งในภาพยนตร์ท่องเที่ยวเเละการเป็นนักแสดง
นักแสดงวัยหนุ่มของเรายังมีความสามารถและความจุกจิกชื่นมั่นที่จะพัฒนาตนเองในอนาคต
และคงจะมีผลงานที่น่าจับตามองเด่นในอนาคตต่อไป
