แคน ดิ เด ต นายก และกำลังการทำงานของรัฐบาล
ต้นตอของ แคน ดิ เด ต นายก
แคน ดิ เด ต นายกเป็นนายกฯ คนที่ 36 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นนายกฯผู้แรกของเชื้อชาติอเมริกัน-อาฟริกัน มาจากการเป็นผู้นำฝ่ายรัฐบาลในระหว่างสมัยปฏิวัติพึ่งผ่านไปในประเทศออบามา ก่อนที่เขาจะกลับมาทำงานในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1981 แคน ดิ เด ต นายกได้รับความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นเมื่อเขาได้รับการเลือกเป็นรองนายกฯ ในปี ค.ศ. 1988 ส่วนการเลือกเป็นนายกฯนั้นเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1992 ที่เขาได้รับเสียงสูงสุดในการเลือกตั้งทั้งหมด ช่วงการเป็นนายกฯของแคน ดิ เด ต เป็นช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ที่สำคัญมากมาย เช่น การสงครามอิรัก โจมตีสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1990 และข้อความสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ถูกยอมรับในปี ค.ศ. 1998 ซึ่งข้อความนี้ได้รับการเขียนโดยเฉพาะจากสมาพันธรัฐทั้ง 50 รัฐในสหรัฐอเมริกา
นโยบายด้านเศรษฐกิจ
ในช่วงเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ แคน ดิ เด ต ได้เน้นเรื่องการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและการลดระดับความยากจนด้วยการลดภาระภาษีในช่วงแรกของชิงตำแหน่ง การลดภาระภาษีนี้ได้ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจได้มากขึ้น พร้อมกับให้ผมได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ของเอกชน อย่างไรก็ตาม การปิดประตูให้กับการค้าระหว่างประเทศกับเขตเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการซื้อขายบริกัตสุดขอบฟ้ากำลังถูกทำลายเพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับการพัฒนาเอกชนในประเทศ
นอกจากนี้ แคน ดิ เด ต ได้สนับสนุนการเติบโตของแนวคิดเชิงรัฐวิสาหกิจที่สูงขึ้น ผ่านกฎหมายพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาขยายออกไปยังประเทศอื่น ๆ และบันเทิงความมั่งคั่งให้กับคนอเมริกัน อย่างไรก็ตาม การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงการปฏิบัติงานของแคน ดิ เด ต จะเกิดความติดขัดในภาคอุตสาหกรรมและส่วนต่อประชาชนที่ไม่ได้ผลิตสินค้าเอง
นโยบายสิ่งแวดล้อม
แคน ดิ เด ต ได้เป็นหัวหน้าในการกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาที่เขาเป็นนายกฯ โดยเขาได้ดำเนินการในด้านการลดการปล่อยของก๊าซเรือนกระจกจากการใช้แหล่งพลังงานที่ไม่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่น น้ำมันไพโรโฟร์มและก๊าซซัลเฟอร์ฮอน โดยในปี ค.ศ. 1990 แคน ดิ เด ต ได้ลงนามในสัญญาที่เป็นแบบอย่างระหว่างรัฐบาลและสมาคมสิ่งแวดล้อมเพื่อลดและถอดการใช้ก๊าซเรือนกระจกได้กล่าวไว้ว่าจะป้องกันการพังทลายไว้จนกว่าจะเป็นเช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อมและสำนักงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม
นโยบายการศึกษาและการเรียนรู้
แคน ดิ เด ต ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดการศึกษาและการเรียนรู้หลายประการ เช่น ด้านประชาคม ซึ่งได้รับการผลิตเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาของเขาจากการดำเนินนโยบายด้านคุณภาพการศึกษา การลดการละเมิดสิทธิถูกลืมถูกต้องและการสนับสนุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แคน ดิ เด ต ยังได้ลงนามในกฎหมายป้องกันความรุนแรงทางเพศเรียบร้อย ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นก้าวสำคัญของการปกป้องสิทธิมนุษยชนและเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในบทนำของแคน ดิ เด ต ในการประกาศเรื่องที่เกี่ยวกับเครื่องหมายนัยว่า “ฉันไม่ปล่อยให้คนใดข่มขืนหรือเหยียดเชื้อชาติ…” ในปี ค.ศ. 1995
นโยบายการปกป้องสิทธิมนุษยชน
การปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญต่อแคน ดิ เด ต และส่งผลต่อการดำหนินการของรัฐบาล ในปี ค.ศ. 1994 แคน ดิ เด ต ได้ลงนามในสัญญานี้และสร้างความเข้มแข็งให้กับกฎหมายที่จะพิจารณาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกา นับเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและได้รับการแต่งตั้งจากการออกย่างส่วนตัวและสถานการณ์การเมืองด้านคดีความผิด
อย่างไรก็ตาม นอกจากนั้นแล้ว แคน ดิ เด ต ได้เพิ่มการหันมาหาการปกป้องสิทธิชนชาวอเมริกันและกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มเช่น คนเดือนสีไทย คนอินเดีย เป็นต้น โดยพิจารณาการให้สิทธิการลูกจ้างและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นการเข้าถึงทางมติชนและการตายของนักแสดงชาวอเมริกันแก้วจองเกียรตินางแบบปลอมผ่านการผิดปกติของตำรวจ
ผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับแคน ดิ เด ต นายก
แม้ว่าเป็นอดีตนายกฯและจบการดำรงตำแหน่งไปแล้วมานานกว่า 20 ปี แต่แคน ดิ เด ต ยังคงเป็นตัวแทนสำคัญของไอเดียเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและกับการปกป้องสิทธิพลเมืองไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกาหรือทั่วโลก แคน ดิ เด ต เป็นตัวแทนคนอเมริกันที่ได้โด่งดังและมีอิทธิพลมากที่สุดโดยได้รับการยกย่องว่าเป็นนายกฯที่โดดเด่นที่สุดในรุ่น ๆ หนึ่ง อย่างไรก็ดี แคน ดิ เด ต นายกไม่ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนายกฯที่สำคัญและดีที่สุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
ส่วนต่อไปของการปกครองของรัฐบาล ทำได้ไหม?
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญว่า การปกครองของรัฐบาลในอนาคตจะไม่ได้รับผลกระทบและเกี่ยวข้องไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางนโยบายและความเป็นเลิศในการประกอบการการเมืองของสหรัฐทั้งกลุ่มและผู้อยู่อย่างอิสระ นี่เป็นเส้นทางที่ยังคงเต็มไปด้วยอุปสงค์ต่อการต่อสู้และความคิดค้นรูปแบบประเภทใหม่ที่จะเป็นที่ยอมรับและชั้นนำทั่วโลกอย่างไรก็ตาม หากสหรัฐอเมริกาต้องการจะเป็นผู้นำทางการเมืองอีกครั้ง คนที่ถูกเลือกไปครั้งถัดไปน่าจะจะต้องให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชนและไม่ละเลยพื้นที่ที่ยังมีปัญหาในสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมอย่างไม่ได้รับความนิยมซึ่งจะต้องให้ค