ในปี 2566 นี้ ชุดพรรคการเมืองไทยได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มของพรรค การเข้าร่วมของผู้มีน้ำใจและการแบ่งแยก ส่งผลให้มีการแบ่งแยกเป็นพรรคเพื่อเลือกตั้งและพรรคหลักของประเทศไทย
ในปี 2566 นี้ ผู้มีอิทธิพลและความเป็นมากในชุดพรรคการเมืองไทย ได้แก่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะได้รับความสนใจและติดอันดับสูงสุดในการเลือกตั้งในปี 2566
พรรคพลังประชารัฐ ได้รับความสนใจจากผู้มีน้ำใจและผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมาก ซึ่งมีฐานะทั้งกลุ่มผู้มุ่งหวังการเปลี่ยนการเมืองที่ไม่ได้เป็นธุรกิจและผู้ต้องการผลาญงบประมาณเพื่อเพิ่มโอกาสในการลุกขึ้นไปสู่ชั้นบนของสังคม
ฝั่งตรงข้ามของพรรคพลังประชารัฐคือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงสุดกับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ไว้วางใจและประสบความสำเร็จในการทำความเข้าใจกับผู้มีน้ำใจและเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐต้องการทำได้ดีขึ้นและจะต้องพัฒนากลยุทธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้มีอยู่จริงและคนต่างชาติที่สนใจในการเลือกตั้ง
ณ ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ แต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 การเชื่อมต่อกับคนดังอาทิ เหมืองหินปูนพะเยาชื่อดัง เป็นเพียงเล็กน้อยจะช่วยเพิ่มช่องทางในการขับเคลื่อนการแข่งขันกับพรรคอื่น
นอกจากนี้ ยังมีพรรคอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในการแข่งขันภายในชุดพรรคการเมืองไทย ได้แก่พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคอนาคตใหม่ และพรรคประชาชนปฏิวัติ
พรรคเศรษฐกิจใหม่เป็นพรรคที่มีความคิดเชิงประชาชนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พรรคนี้มุ่งเน้นในการส่งเสริมการลงทุนและกำจัดอุปสรรคทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งความคิดนี้ได้รับความสนใจจากผู้มีน้ำใจและชุมชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในประเทศ
ด้วยความจริงพรรคอนาคตใหม่ได้กลายเป็นเป้าหมายหลักของผู้กำกับการรวมกลุ่มในชุดพรรคการเมืองไทย ซึ่งมีแนวคิดการพัฒนาผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาคต่อไป
ในปัจจุบัน พรรคประชาชนปฏิวัติมีความเป็นมากในการรวมกลุ่มของผู้มีน้ำใจ และพรรคนี้ได้รับความชื่นชอบจากผู้เลือก โดยพรรคนี้ฟังก์ชั่นเพื่อการสร้างความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนให้ลูกน้องเรียนและพัฒนาศักยภาพของพวกเขา
นอกจากนี้ ยังมีพรรคประชาธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ต้องการการผิดปกติของเรื่องราวทั่วไปในการเลือกตั้ง และพรรคประชาธิปไตยไทย ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องของการปกครองแบบล่วงหน้า ในการรวมกลุ่มของพรรคการเมืองไทย
ในส่วนของความเป็นมาของชุดพรรคการเมืองไทย นับตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2022 มีการแบ่งออกเป็น 02 กลุ่มใหญ่ คือ
1. กลุ่มพรรคการเมืองที่มีการลงทุนในการสนับสนุน และเครื่องมือการเลือกตั้ง เช่น พรรคประกันตนเอง พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคมาตุภูมิ พรรคเพื่อพัฒนาประเทศ และพรรคประชาธิปไตยใหม่
2. กลุ่มพรรคการเมืองที่มุ่งเน้นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและฝึกอบรมกระบวนการเลือกตั้ง เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคอนาคตใหม่
ในช่วงระยะเวลาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ชุดพรรคการเมืองไทยได้พัฒนาให้กลายเป็นชุดพรรคด้วยการเปลี่ยนแปลงและการเลือกตั้งที่ถัดมา แต่ยังคงมีการกลับมาของพรรคที่ใหญ่และสำคัญอย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเลือกตั้งในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่จะมีประสิทธิภาพที่สุดคือการเลือกตั้งที่ยุคใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งและใช้บทบาทอย่างมากในการเข้าถึงกลุ่มผู้มีน้ำใจและการแข่งขันในการเลือกตั้งของชุดพรรคการเมืองไทย ดังนั้น ผู้เป็นนักการเมืองควรรับใช้แนวคิดให้เข้ากับยุคใหม่และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้มีน้ำใจโดยด้วยกลยุทธ์การเลือกตั้งที่ยุคใหม่แบบเข้าถึงเป้าหมายได้รวดเร็ว และสามารถทำให้ชุดพรรคการเมืองไทยมีความสำคัญและเป็นเสถียรภาพในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
