ประวัติ ประยุทธ์ จันทร์ โอชา: นักการเมืองผู้มีอิทธิพลมากมาย
ประยุทธ์ จันทร์ โอชา เกิดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นลูกคนที่ 2 ในครอบครัว เกิดมาในครอบครัวที่มีธุรกิจทางการเกษตร เขาได้รับการศึกษาที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒน์ภูมิ จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้รับการศึกษาต่อที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงในการให้ความรู้ทางธุรกิจ
ในปี พ.ศ. 2528 เขาเข้าร่วมกองทัพบก และได้รับการอบรมทหารประจำชาติ ในช่วงนี้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้ทางทหาร และได้รับความรู้ความชำนาญในการทำงานกับเพื่อนร่วมกองทัพในสภาพแวดล้อมที่ละเอียดอ่อน
หลังจากที่ประยุทธ์เสร็จการศึกษาแล้ว เขาได้เข้าทำงานในธุรกิจครอบครัว โดยได้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารในบริษัท ในช่วงนี้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการธุรกิจ และได้สร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทโดยมีความสำเร็จอย่างมาก
ความสำเร็จในธุรกิจจึงส่งผลให้ประยุทธ์มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจ ซึ่งโดยไม่รู้ตัวเขากลับกลายเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลมากมายในวงการการเมืองไทย
ในการเข้าสู่วงการการเมือง ป.ป.ชอบใช้วิธีการลงมือทำงานเล็กน้อย แต่มีผลงานที่มีศักยภาพ เช่น การให้ความช่วยเหลือเพื่อชุมชนเล็กๆ โครงการทำนายาง โครงการร้องทุกข์ต่อทรัพย์สินทางปัญญา โครงการก่อสร้างทางด่วน โครงการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นต้น
ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สาเหตุหลักคือความสามารถในการทำงานและองค์ความรู้ในการจัดการประเทศ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือบุคลิกที่สามารถสื่อได้ด้วยความแข็งแกร่ง และภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ป.ป.ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งด้วยจำนวนลูกค้านที่น้อยกว่าคู่แข่ง แต่เขาได้ทำให้ภาพลักษณ์ของตนเป็นมากมายในบริบทนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การจัดการสิ่งแวดล้อม การศึกษา และการแก้ไขปัญหาสังคมในทุกๆมิติ
แต่การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงระยะเวลา 5 ปี หลายๆงานได้ดำเนินการไปด้วยความสำเร็จ โดยเฉพาะการสร้างสถิติคนจนที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย การเพิ่มเงินเดือนของคนทำงานในสถาบันรัฐและเปิดโอกาสให้กับสถาบันภาคเอกชนเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การคัดค้านต่อการขับเคลื่อนสาส์นพลังประชาชนในปี พ.ศ. 2555 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งห่างจากการเมือง หลังจากการประชุมแถลงข่าวที่สำนักข่าวนานาชาติในประเทศไทยประวัติศาสตร์ ในบทวิจารณ์ของผู้ชายที่เรียกร้องการปฏิวัติและการก่อการร้ายของโครงการที่เขาเห็นว่าไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ในช่วงหลังจากการปลดตำแหน่ง ป.ป.ได้เริ่มต้นดำเนินการตลาดแบบภาคอุตสาหกรรมในการพัฒนาการอุตสาหกรรมในประเทศไทย และเชื่อมโยงและส่งเสริมพัฒนาธุรกิจขนาดกลาง เวลาที่ผ่านมาอดีตนั้นเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์แล้ว สำหรับป.ป.ในปัจจุบันเขาต้องการดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เป็นตัวแทนสำหรับประชาชนภายใต้มาตราฐานที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตและการพัฒนาของประเทศไทย
