เพลง รัก รอย แค้น ตอน ที่ 20: แล้วเราจะเจอกันอีกไหม?
พื้นที่การแสดงเพลงไทยไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบละคร หรือเพลงฮิต ก็มีชื่อเสียงมากมายเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้กรณีของเพลง “รัก รอย แค้น ตอน ที่ 20: แล้วเราจะเจอกันอีกไหม?” ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่คนไทยต้องไม่พลาดที่จะได้ฟังและรักษาไว้
เริ่มต้นพูดถึงเนื้อเพลง ทุกคนอาจจะต้องรู้จักว่า เพลง “รัก รอย แค้น ตอน ที่ 20: แล้วเราจะเจอกันอีกไหม?” เป็นเพลงประกอบละครที่ได้ฉายในช่องวัน ดังกล่าวเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแต่งงานของคู่หนุ่มสาวที่มีความรักที่ไม่ลงตัว เพราะเคยเกิดเหตุขัดแย้งพอๆ กัน แต่ภายหลังได้กลับมาพบกันอีกครั้ง จึงจัดทำพิธีแต่งงานขึ้น เมื่อคืนของวันแต่งงานคู่หนุ่มสาวนี้อารมณ์ไม่ดีและมีแต่ความไม่พอใจ จนทำให้ร่วมงานเกิดเหตุการณ์ตำรวจมาสืบสวน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเพลง จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความคิดที่ผู้หญิงมีต่อผู้ชายที่เคยทำให้เธอเสียใจ จึงเลือกที่จะสนับสนุนเพื่อนของเธอในการตีแผ่นช็อกโกแลตเพื่อทำให้เพื่อนคุ้นเคยกับความเจ็บปวด ทั้งนี้เพื่อนของเธอก็หันมาพูดคำปรึกษากลับมาและเพื่อนของเธอก็ได้รันต่อไปผ่านการร้องเพลง
การทำเนื้อหาเพลงของเพลงนี้ คือความศาสนาในความรักของคู่หนุ่มสาวที่มีความที่น่าสนใจมาก และทั้งคู่ก็ได้รักษากันได้มาช้านาน แต่เหตุการณ์พวกนี้ก็เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติกับความสัมพันธ์ของคู่รักทุกคู่เลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะหลายครั้งคำว่า “รัก” เป็นความรู้สึกที่ไม่เข้าใจเสมอไป ส่วนมากเพลงในปัจจุบันก็มีความคิดในด้านนี้อยู่มากและรวมถึงเนื้อเพลงของเพลงนี้ด้วย ถ้าหากพูดถึงเนื้อหานี้โดยสังเกตดูแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเพลงนี้สร้างความหวังให้คนไทยหลายคนได้เข้าใจถึงความหมายของคำว่า “รัก” อย่างเต็มที่
ฉะนั้นการร้องเพลงนี้ต้องใช้เทคนิคในการร้อง เพราะเนื้อเพลงที่เป็นเรื่องราวความคิดและความรู้สึกที่ผู้ฟังต้องการจะใช้ชีวิตของเราเป็นตัวเล่าเรื่อง สามารถร้องได้โดยใช้เสียงที่ถูกต้องแบบพอเหมาะเป็นพิเศษ โดยจะต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ของคู่รักที่เหมือนกับเล่าเรื่องเล่าโมเอ็ม โดยภายในเนื้อหาของเพลงนี้ มีการใช้วรรณคดีไทยมาใช้เป็นการเติบโตในการพัฒนาความคิดของคนไทยก็ดี แต่นักเขียนเพลงนี้ก็ได้เขียนเนื้อเพลงนี้ให้ถูกต้องและสร้างความชื่นชมให้กับเราเหมือนกัน จึงทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่คนไทยไม่ควรพลาดที่จะได้ฟังและรู้จัก
หลายคนอาจจะเห็นว่าเพลง “รัก รอย แค้น ตอน ที่ 20: แล้วเราจะเจอกันอีกไหม?” เป็นเพลงที่ผ่านจากอดีตของวงการเพลงไทย แต่ไม่ว่าจะดูจากมุมมองใดก็ตามสิ่งที่เขียนเป็นและยังคงจะเป็นพลังสำคัญในวงการเพลงไทย แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีบอกได้ว่าเพลงนี้ยังคงเคยได้รับคนไทยคิดถึงและไม่ควรพลาดที่จะได้ฟังร้องและรักษาไว้ในความทรงจำ
ดังนั้นการดูแลรักษาเพลงไทยให้ยับยั้งไม่ว่าจะเป็นที่รูปแบบและสไตล์ของเพลงนั้นจะเป็นยังไงก็ไม่ควรทิ้งเพลงไทยให้สูญหายไป จึงจะทำให้ได้ยินเสียงเพลงไทยต่อไปในอีกปีหน้าปีๆ ต่อไป