บาสภาณุภัทร์ เป็นชื่อของนักกีฬาที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2548 เมื่อเขาได้รับการเลือกเข้าเป็นสมาชิกของทีมชาติไทย และได้มีส่วนร่วมในการชนะเลิศเหรียญเงินในการแข่งขันเยาวชนเอเชีย ตอนนี้ เขาได้ตกลงใจเลิกการเป็นนักกีฬาเต็มเวลา เพื่อเต็มใจในการเรียนและก้าวสู่อาชีพใหม่ เรามาดูกันว่าชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อเขาเลือกเดินทางไปในทางที่ตัดกันออกไปจากวงการกีฬา
เด็กเขาเกิดและเติบโตขึ้นในครอบครัวที่มีความรักและคอยประคองเขาอย่างมาก ค่ายหน้าอายุ 6 ปี เขาได้รับการส่งต่อไปยังโรงเรียนบอล TNSC เพื่อเรียนรู้เทคนิคพื้นฐานของกีฬาและใช้ชีวิตครอบครัวที่อยู่ไกลแต่ก็สามารถเดินทางเข้าเยือนทุกสัปดาห์ในวันหยุดได้ โดยเขาได้สูงส่วนสำหรับการพัฒนาเทคนิคเล่นของเขากับโรงเรียนในช่วงระหว่างอายุ 12-15 ปี
หลังจากที่ผ่านโรงเรียนเทคนิคเล่นให้ได้รับการพัฒนาระดับมืออาชีพให้ได้ระดับโลกแล้ว เขาตัดสินใจเติบโตเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลเต็มเวลา ซึ่งมันก็คือความฝันของเขาตั้งแต่เด็ก เขาบอกว่าเขาอยากเล่นบาสเกตบอลให้สุดกำลัง และต้องการให้เป็นนักกีฬาอาชีพ เพื่อจะได้ท่องเที่ยวทุกส่วนของโลกและประสบความสำเร็จในการเป็นนักกีฬา
เขาเริ่มทำตัวในวงการบาสเกตบอลในปี พ.ศ. 2537 กับสโมสรบาสเกตบอลเบอร์เกอร์ ทีมที่น่าจับตามอง และได้จำนวนแต้ม CSAT เต็ม ด้วยฝีมือของเขา ทีมเบอร์เกอร์ได้ชนะในการแข่งขันมากมาย รวมถึงเป็นเจ้าของลาลีกาอินโดนีเซียในช่วงปี พ.ศ. 2545
หลังจากการเล่นหลายปีเรียบร้อยแล้ว เขาได้รับการเลือกเข้าร่วมทีมชาติไทยในขณะที่เขายังอยู่ในช่วงเวลาเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายของตน ในการแข่งขันเยาวชนครั้งใหญ่อย่างเกมเปย์เบียนคัพแห่งชาติ ข้อมูล สามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของ สโมสรโอลิมปิกสุดยอด
หมายเหตุ: เกมนี้ของการแข่งขันในฝันสยามเป็นเช่นเดียวกับหลายๆโอกาสด้านกีฬาในอดีต ในขณะที่โอลิมปิกเป็นเหตุผลที่เขาเร็วกว่าเกือบทุกวันธรรมดาในการฝึกฝนต่อไป
ในช่วงต่อมาเคยเป็นเจ้าของทีมชั้นนำของประเทศไทยอย่างบาสเกตบอลประสบความสำเร็จได้หลายครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระดับชาติและอุปกรณ์กีฬา นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญอาทิเช่นการดำเนินการให้รองรับการฝึกนอกฤดูกาลให้เกิดขึ้น กิจกรรมที่เน้นการพัฒนาฝีมือตำแหน่งและการศึกษาผลส่งเสริมความเป็นเลิศและประสบความสำเร็จสำหรับผู้เล่นรุ่นหลัง
แต่หลังจากมีผลส่งเสริมการเกิดเหตุการณ์ covid-19 เขาได้ดีใจที่ได้มีเวลาช่วงหนึ่งที่หยุดหย่อนความรู้สึกเกี่ยวกับการเป็นนักกีฬาอย่างฝืดเข้าไปในไพ่ของเขา เขาได้เข้าศึกษาอย่างเต็มตัวและเตรียมตัวในการก้าวข้ามวงการกีฬา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นและความสามารถในการใช้ชีวิตของเขา ทำให้ผมเชื่อว่าเขาจะประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในอาชีพใหม่ของเขา ปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในคนในวงการที่ได้ก้าวไปอย่างแม่นยำด้านการทำงานและการเลี้ยงชีพจำนวนมากในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังให้การตัดสินใจที่แรกต่ำสุดของเขา ที่เขาจะตั้งคำถามว่าควรจะแยกตัวออกจากวงการกีฬาหรือไม่ และเขาจึงตัดสินใจเลิกการเป็นนักกีฬาเต็มเวลา ซึ่งใกล้เคียงกับฝันของเขาเป็นนักกีฬาทั้งคู่ การหยุดหย่อนความรู้สึกนี้สามารถเป็นดีกับเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาตอบความต้องการในการเรียนและทำงานในตัวเอง การตัดสินใจอย่างสุดท้ายที่เขาคิดไว้คือการก้าวไปข้างหน้าชีวิตแบบมีความสุขเต็มใจและบรรลุเป้าหมายในอาชีพที่เขาเลือกเนื่องจากผู้เล่นดังกล่าวรู้ว่าตัวเองมีพื้นที่สำหรับสร้างสิ่งใหม่ๆ และเป็นไปได้อย่างมีความสุขในตัวเอง
