“ฝันอุ้มเด็ก ตอนใหญ่โตแล้ว” เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกน้อยที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเมื่อลูกโตขึ้นมา ฉบับนี้จะให้การีวิวเกี่ยวกับภาพยนตร์สั้นที่ชื่อเดียวกัน “ฝันอุ้มเด็ก ตอนใหญ่โตแล้ว” ซึ่งนำมาจากนิยายชื่อดังของนักเขียน “พงศธร ดอนเมือง” ซึ่งได้มีการสร้างสรรค์ให้อย่างสุดท้ายในปี 2018
เรื่องราวของ “ฝันอุ้มเด็ก ตอนใหญ่โตแล้ว” เป็นเรื่องราวแห่งความรักและการเข้าใจกัน โดยได้สร้างมาจากทั้งภาพยนตร์และนิยาย โดยมีตัวละครหลักคือเด็กชายที่มีชื่อว่า “ดิ๊ก” ซึ่งต้องการให้ความรักและความรู้สึกของเขาถูกเข้าใจจากพ่อแม่
ดิ๊กเป็นเด็กชายที่แสนอ่อนไหวและอ่อนหวาน เขาอยู่กับพ่อแม่ทั้งสองในบ้านเล็ก ๆ มีความสุขสมบูรณ์ พ่อแม่ของเขาได้แต่งงานกันเพียงไม่กี่ปี แต่เรื่องราวที่ต้องพูดถึงในภาพยนตร์นี้ก็เกิดขึ้นเมื่อดิ๊กเริ่มเป็นเด็กใหญ่
การเปลี่ยนแปลงของทั้งการคิดวิธีแก้ปัญหา และการพูดคุยของดิ๊กกับพ่อแม่ของเขาในภาพยนตร์นี้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ได้รับการยกย่องอย่างมากระหว่างการแสดง การเล่นของนักแสดงสองคนนี้ได้สร้างอารมณ์ที่สร้างสรรค์และได้ถูกต้องตามที่ต้องการในบทละครของเขา
เนื้อหาของภาพยนตร์ฉบับนี้เป็นเรื่องราวที่อยู่ใกล้ชิดไกลกับความเป็นจริง ซึ่งได้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีเยี่ยม ส่วนมากเนื้อหานี้จะมีความหมายหลักหลั่งและอารมณ์ที่เหมาะสมกับดิ๊กเป็นเด็ก “ประเภทที่คุณอยากจะอยู่ติดต่อกันตลอดเวลา” สถานการณ์ของพวกเขาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ รอบตัวเรา สำหรับคนที่มีลูกน้อยหรือเป็นเด็กเอง อาจจะเวลาทำให้คิดถึงเรื่องราวในภาพยนตร์ฉบับนี้ก็ได้
การเล่นของนักแสดงสองคนสำคัญที่สุดในภาพยนตร์นี้คือ “ประหม่า” และ “อ๊อด” ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ภาพยนตร์นี้สนุกสนานกับผู้ชมได้ นอกจากนี้ ตัวเรื่องยังให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ดนตรี เสียงจากวิทยุ และเครื่องบิน เพื่อที่จะเข้าใจได้ว่าอย่างไรที่พวกเขาต้องย้ายบ้านออกจากบ้านเก่าของพวกเขา
เพื่อนของฉันชื่อ “แมว ” หนึ่งครั้งเขาบอกว่าเห็นน้อง “อ๊อด” เล่นหนังเด็กเรื่อง “ทองคำสุดขอบฟ้า” แล้วรู้สึกกระตือรือร้นกับช่วงที่ “ตัวละครหลัก” รับมือกับอาการที่ตัวเองไม่อยากจะแสดงให้คนอื่นเห็น ภาพยนตร์ฉบับนี้จึงเป็นเรื่องราวที่จะมอบการเรียนรู้ให้กับเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างมากมาย
สรุปได้ว่า “ฝันอุ้มเด็ก ตอนใหญ่โตแล้ว” คือภาพยนตร์สั้นที่สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกคน ด้วยเนื้อหาที่ใกล้ชิดตัวกับความเป็นจริงและการแสดงที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เราได้ลืมตกใจกับปัญหาต่าง ๆ บางครั้งและเข้าใจได้ถึงอารมณ์ของดิ๊กและความสัมพันธ์ของทั้งสามคนในครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่เหมือนจะเกิดขึ้นได้ทุกครั้งที่คนๆ หนึ่งโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่โดยไม่ได้รู้ตัว เลยทำให้ภาพยนตร์นี้ได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากผู้ชมทั่วโลก
