เท เล ทับ บี้: หน้าใหม่ของวงการดนตรีในยุคดิจิตอล
เท เล ทับ บี้ หรือ Tetraple B เป็นวงดนตรีสัญชาติไทยที่ทำการกลับมาพบกับผู้ชื่นชอบเพลงในยุคดิจิตอลอย่างต่อเนื่องจากวงได้มีการพักผ่อนให้กับตนเองนานเกือบ 10 ปี จนกระทั่งในปี 2563 ที่ผ่านมาได้มีการประกาศเปิดตัว EP แฟนผสมเพลงที่เพิ่มเข้ามาได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการดนตรีไทยในยุคปัจจุบัน
เท เล ทับ บี้ เป็นวงร็อคไทยที่มีน้ำหนักเสียงที่มั่นคงและเท่ห์เข้าไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์ที่คมชัดพร้อมกับท่าเล่นที่สวยงาม ไปจนถึงเสียงชีวิตที่รังเกียจและสุดท้ายก็มาพร้อมกับการแต่งเพลงที่มีการจัดเรียงอย่างลงตัว ทำให้ผู้ที่ฟังเพลงของวงนี้มีความรู้สึกอย่างมากมายและอิ่มเอมไปด้วยสมาธิต่อเนื่องตลอดทั้ง EP
ใน EP แฟนผสมเพลง นับว่าเป็นEPที่วงเท เล ทับ บี้ได้ใช้เวลาในการจัดเตรียมและฝึกฝนให้ดีที่สุด เพื่อให้ผลงานที่ได้มานั้นสมบูรณ์แบบไปกับเสียงเพลง รวมถึงแนวเพลงที่จะไปอยู่ในสไตล์ของ Tetraple B ต้องการที่จะพาผู้ฟังเข้ามาเกาะอยู่ในความรู้สึกและบรรยากาศที่ตัววงฝากไว้ในทุกๆตัวอย่างไว้เป้าหมายเพื่อรับการตอบรับจากผู้ที่หลงรัก Tetraple B
ซึ่งใน EP แฟนผสมเพลงนี้ก็จะมีคอนเซปต์ใหม่ๆเข้ามาเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของวงนี้ให้กับผู้ฟังอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเสียงเท่ กล้า เปิดใจ และร้องไห้ร้องมันทุบด้วยคำขอบคุณ ที่จะให้ผู้ฟังได้เข้าใกล้ทุกๆ ตอนของมันตลอดทั้ง 5 เพลงใน EP นี้
เรื่องราวภายในเพลงใน EP นี้ก็ได้ถูกสะท้อนออกมาจากประสบการณ์ของชีวิตส่วนตัวของสมาชิกในวง ว่าเมื่ออายุย่อมากขึ้นชีวิตก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ผ่านทุกช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในชีวิตทุกคนแต่ละคน และผลกระทบที่เกิดขึ้นก็ไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นความสนุกสนานต้องการออกอาชีพใหม่หรือจะเป็นข้อจำกัดกับเพื่อนฝูงที่ไม่เหมือนเดิมทำให้ต้องทำงานหนักขึ้นก็ได้
เพลงแรกใน EP คือเพลง“Tetraple B (Going crazy)”ซึ่งในที่นี้ วงได้ใช้ไอเดียจากวงที่แข่งขัน“X-factor”เข้ามาเพิ่มสมบัติให้กับเพลงด้วยบทแร็ปแบบSino-Trapที่นำโดยอันดับหนึ่งของเจ้าของเพลง( ในที่นี้โดย ภญญา พรสตรีฐ์) ที่นำโดยตัวอักษร ‘B’ เอง ทำให้โปรเจ็คนี้เกิดความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น กับเนื้อเพลงที่ความสนุกสนานมาก จนแทบจะไม่เอาจริงเอาจัง
เพลงที่ 2 ใน EP คือเพลง “มนต์รักที่ไม่ได้รู้สึก (Feelless)” ซึ่งเป็นเพลงแนวโรคแรงร้ายที่สามารถดึงคนฟังได้จนโชคดีมากๆ เนื่องจากตัวเพลงเต็มไปด้วยเสียงกีต้าร์ที่ดีจนตาก็จะต้องอัพเกรดตนเองแน่ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเนื้อหาของเพลงไม่สวยงาม เพลงก็ไม่มีความหมายอะไรเลย แต่กับเพลงนี้เนื้อเพลงสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
“สิงห์สีชมพู (Pink Lion)” เป็นเพลงที่ 3 ใน EP นี้ ก็เป็นเพลงที่มีความคลุมเครือขณะก็ความรู้สึกที่สามารถสื่อถึงตัวเพลงได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นการร้องจริงๆ ของสมาชิกสาวสุดเก๋ในวงไม่เพียงแต่เสียงดี แต่ยังมีชอบธรรมชาติและมีน้ำหนักเสียงที่ดีมาก ทำให้เพลงนี้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในวงการดนตรีไทยในยุคปัจจุบัน
เพลงที่ 4 ใน EP คือเพลง“Oh My My My” ซึ่งถือว่าเป็นเพลงที่สร้างสีสันมากขึ้นใน EP นี้ คอรัสเพลงเป็นคอรัสที่ส่งตรงสารทนาของ Chaos ทำให้เรารู้สึกเกือบเข้าใจสิ่งที่เขาอยากพูด การแต่งของเพลงนี้ถือว่าบูรณะทุกถ้วยถ้วนแล้วเพราะเราสามารถเห็นความพยายามและตัวตนของศิลปินที่แทบจะไม่มีใครที่เลียนแบบมาซึ่งเป็นเจ้าของเพลงได้อย่างชัดเจนในทุกๆ ไหนของเพลง สุดท้ายเพลงที่ 5 คือเพลง“กอดความคิดไม่ได้ (Can’t hold my thoughts)” เป็นเพลงที่ได้รับความนิยม เพราะสามาชิกฝ่ายซ้าย“Earl”ได้ร้องเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงที่ทำให้เราต้องพูดถึงเขามากขึ้น
ถ้าพูดถึงเทรพเพิลบีเป็นเรื่องชั้นนำในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา ก็แน่ใจว่าวงนี้ได้วางแผนและรีเนิร์ดเพื่อผลิตผลงานออกมาอย่างได้ผล ด้วย EP “แฟนผสมเพลง”ที่ประสบความสำเร็จในระดับมากในวงการดนตรีไทยในช่วงนี้ ทำให้เท เล ทับ บี้ ก้าวไปอีกก้าวหนึ่งลูกเล่นในวงการดนตรีไทย และมีชื่อเสียงอย่างแรงกล้าในวงการดนตรีในยุคดิจิตอลอย่างมากอีกด้วยกร๊ากกกก โดยขอให้วงดนตรี Tetraple B หรือเท เล ทับ บี้ เข้าใจถึงเสียงเช่นนี้และรักษามันไว้โดยตลอด และมันยังคงมาพร้อมกับการสร้างสรรค์ผลงานอีกทั้งหมดในอนาคตมากในวงการดนตรีไทยในยุคดิจิตอลอย่างแน่นอน