Bun คืออะไร? ทำไมเป็นเอกลักษณ์ของไทย
บันเป็นขนมปังที่มีลักษณะแบบกลม ๆ ถูกทำจากแป้งสาลี น้ำตาล และเกลือ เป็นอาหารพื้นเมืองของไทยยาวนาน ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน สามารถเห็นได้ว่าบันเป็นอาหารที่มีความรู้จักกันมากมายในทุกภาคของประเทศไทย โดยส่วนมากจะอยู่ในรูปแบบของขนมปังหน้าร้าน หรือขนมปังเบนโตะ โดยมีการผัดให้กรอบและใส่ไส้แป้ง เช่นไส้หมูหน้า ไส้ปู ไส้ไก่ผงเม็ดมะเขือเทศ หรือไส้อื่นๆ ตามความชอบ
บันคืออาหารที่มีเอกลักษณ์ของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ใช่อาหารที่มาจากประเทศอื่น นอกจากนี้ การทำบันก็ต้องใช้เทคนิคและวิธีการอบที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย หน้าตาของบันก็มีลักษณะเป็นแบบกลม ๆ และประมาณว่ามีผิวนุ่ม ๆ ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทยย่อมต้องตื่นเต้นและกินบันอยู่เสมอ
นอกจากนี้ การกินบันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยอีกด้วย กลุ่มคนไทยจะมักมานั่งกินบันกันในช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือช่วงเช้าหลังส่งเด็กไปโรงเรียน นอกจากนี้ หลายหมู่บ้านในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ก็มักมีการทำบันและมีร้านขายบันเป็นอาหารพื้นเมืองและกินกันเป็นประเพณีตลอดกาล
นอกจากนี้ บันยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน มีรสชาติหวาน กรอบ โปร่งใสและหอม จึงทำให้บันเป็นอาหารกรุงเทพฯอย่างไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะเป็นหมู่คณะทำงานหรือครอบครัวที่ได้มาพักผ่อนในสถานก่อสร้างของเมือง ทั้งนี้บันยังมีสารอาหารสูง โปรตีนก็สูง มีวิตามินบี โคเบียลเดียวกันสูง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและเพิ่มพลังงานให้อย่างมากมาย
การทำบันก็ไม่ได้ยากเท่าที่คิด เราสามารถทำบันเองบ้าง แค่เราต้องซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และรู้เทคนิคและวิธีการทำ หรือหาช่างเซ่นที่ทำบันอยู่ใกล้บ้านมาซื้อก็ได้ เนื่องจากบันจะมีแบบอบที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เช่น บันที่ทำจากประเมินทอง เชียงใหม่ บันที่ทำจากมันแกว ขอนแก่น และบันที่ทำจากแป้งข้าวโพด อุบลราชธานี จึงทำให้แบบอบของบันประกอบด้วยวิธีและเทคนิคการทำที่หลากหลาย
ในสมัยก่อนบันเป็นอาหารที่ไม่ได้หายไปไกลพวกอาหารฝรั่ง เช่น ขนมปังต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันยังคงมีความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่นับตั้งแต่ยุค โบราณบันเป็นอาหารพื้นเมืองอันดับต้นๆ ที่ไม่ไส่ทั้งเสียงและกลิ่ง มีความง่างงาย และอร่อยและเป็นแบบฉบับไทยที่แท้จริง
สรุปได้ว่าบันเป็นอาหารกรุงเทพฯอย่างไร้เทียมทาน ด้วยลักษณะการทำและวิธีการทำอย่างเป็นเอกลักษณ์ กลุ่มคนไทยต่างมีประเพณีที่ชื่นชอบการกินบัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลให้บันเป็นอาหารที่สามารถเห็นได้บ่อยเท่ากับพระเครื่องของไทย ไม่แพ้กับขนมชนิดอื่น ควรรักษาวัฒนธรรมการกินบันเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกหลานได้รับหัวร้อนและรู้จักวัฒนธรรมของเราให้มากยิ่งขึ้น