หน้ากากแบบผึ้งกำลังเป็นกระแสบนทั่วไปในช่วงปัจจุบัน เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก หน้ากากแบบนี้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีซึ่งช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทางกลับกัน หน้ากากป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการประจำวันของผู้คนในช่วงนี้
ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบผึ้ง หน้ากากสีขาว หรือหน้ากากหน้าเหลี่ยม การสวมใส่หน้ากากนั้นกลายเป็นการศึกษาด้วยตนเองว่าเรามีหน้าที่ที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมและคนในสังคมเราอย่างไร หน้ากากแบบผึ้งนั้น ถูกออกแบบมาในรูปแบบของผึ้งที่มีสีเหลืองฟ้า ซึ่งเตือนให้ผู้สวมใส่ระวังตัวเองจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีการประชุมหรืออยู่ในบริเวณที่มีคนเยอะ หน้ากากแบบนี้ถูกใช้งานโดยมากในงานปาร์ตี้ คอนเสิร์ต หรืองานแต่งงาน เนื่องจากมีการออกแบบให้สวยงาม มีสีสันสดใส และสามารถสร้างความเป็นตัวตนได้ตามต้องการ
หน้ากากแบบผึ้งนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมความเป็นไปได้ของช่องคลอดหากมีการสัมผัสหรือการหายใจบนผิวหนังของผู้อื่น ผ้ากันเชื้อแบบผึ้งจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 กันได้ดีเพราะว่าผ้ามีความหนาที่เพียงพอที่จะกรองออกจากพื้นผิวของใบหน้าได้ดี และยังมีพื้นที่ที่อยู่ระหว่างผ้าที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อได้อีกด้วย
การสวมใส่หน้ากากแบบผึ้งถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีผู้คนบางส่วนที่ไม่สามารถใส่หน้ากากได้ อาทิเช่น เด็กอายุต่ำกว่า ร้อยเอ็ดปีเกิด ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และผู้สูงอายุ ในกรณีเหล่านี้ สมาชิกในสังคมจำเป็นต้องให้ความร่วมมือกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอาจจะใช้วิธีการอื่นๆ เช่น การรักษาระยะห่าง การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ และการแต้มแอลกอฮอล์บนมือ
การสวมใส่หน้ากากแบบผึ้ง อาจจะทำให้คุณมีความมั่นใจและรู้สึกปลอดภัยกว่าเดิม แต่ไม่ควรให้ไปขัดกับกฎระเบียบหรือกฎเกณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานอยู่ โดยควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดหลังจากใช้หน้ากากเสร็จเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อ หน้ากากแบบผึ้งจะช่วยป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่สามารถป้องกันทุกชนิดของเชื้อไวรัสได้ ดังนั้น อย่าลืมที่จะรักษาสุขอนามัยของตนเองและสังคมไว้เสมอ และพึ่งเป็นอิสระจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากเท่าใด
