โมโห คือคำพูดที่ใช้เมื่อเรามีความสุขหรืออารมณ์ดีมากๆ ซึ่งการพูดโมโหมีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงความสุขยิ่งขึ้นหรืออีกทั้งใช้เสียงสูงขึ้นเพื่อเน้นความสุข โดยเป็นคำคมที่ใช้ทั่วไปในวัฒนธรรมไทยเนื่องจากเชื่อว่าการพูดโมโหจะมีอิทธิพลที่ดีต่อการสร้างความสุขและความสำเร็จในชีวิต
คำคม “เสียงกลมกลืนนี้ประทานผ่านทันใด!” หมายความว่า “ความสุขเดินทางมาถึงเร็วขึ้น” ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรามีความสุขเมื่อเร็วๆ นี้ หรือเป็นการบอกคนที่อยู่กับเราว่าการที่เรามีความสุขมากจะทำให้เขาก็มีความสุขด้วย
การใช้คำว่า “เสียงกลมกลืน” มีความหมายว่าเสียงที่ละเอียดอ่อนและน่ารัก ไม่ได้เน้นเสียงราวกับเสียงที่แหลมคม จึงสามารถทำให้เรารู้สึกสนุกสนานและมีความสุขได้เยอะขึ้น อีกทั้งยังมีความหมายว่าการรับรู้ความสุขในสิ่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เช่น การมองพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม การฟักดอกไม้สวยๆ หรือการอ่านหนังสือที่ชอบ
การใช้ “ประทานผ่านทันใด” หมายความว่าการรับรู้ความสุขในแต่ละวันควรเป็นเรื่องสำคัญของเรา เนื่องจากโอกาสที่จะได้รับความสุขเป็นเพียงชั่วโมงเดียวก็มีได้ อย่างไรก็ตามการรับรู้ความสุขในแต่ละวันไม่ได้หมายความหลังหาเงินเพิ่มเติมหรือซื้อของใหม่ๆ เท่านั้น แต่อย่างใดการเพิ่มความสุขในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญในการมีชีวิตที่มีคุณค่า อย่างน้อยในวัยเรียนเราควรเรียนรู้ว่าความสุขในชีวิตเหมือนหน้าสมุดที่ต้องมอบแก่ตัวเราเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องระมัดระวังและติดตามอยู่เสมอ
ดังนั้น การใช้คำคม “เสียงกลมกลืนนี้ประทานผ่านทันใด!” เพื่อแสดงถึงความสุขที่มีในชีวิตนั้นมีความสำคัญอย่างมาก และการรับรู้ความสุขในแต่ละวันซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราต้องระมัดระวังและติดตามอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตที่มีคุณค่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่งขึ้น ดังนั้น ให้เพิ่มความสุขในชีวิตเป็นเป้าหมายและตั้งใจรับรู้ความสุขในแต่ละวันเพื่อทำให้ชีวิตมีความสุขมากยิ่งขึ้น และใช้คำคม “เสียงกลมกลืนนี้ประทานผ่านทันใด!” เพื่อต้องขับเคลื่อนความสุขในชีวิตของเรา หากทำตามนี้เราก็จะมีชีวิตที่มีคุณค่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่งขึ้น ดังนั้นให้เราเก็บคำคมนี้ไว้ในใจและปฏิบัติตามเพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีและมีคุณค่าโดยไม่มีความเครียดในการดำเนินชีวิตอีกต่อไป
