ทำไรวะ Cai Na? เรามาดูว่ามันโดนใจคนไทยอย่างไร
หลังจากการดังเป็นประเด็นในโลกโซเชียลมีเดีย ทำไรวะ Cai Na? เริ่มต้นขึ้นด้วยการอัพโหลดเพลงเรื่อง “ทำไรวะ” ของศิลปินชาวจีนที่ชื่อว่า Cai Xukun (ไช่สกุน) เพลงนี้มีความหมายว่า “ทำไรวะ” เป็นภาษาวิถีของจีนแต่ได้ถูกแปลสองทางว่า “ทำไรวะ” หรือ “เจำไรวะ”
เพลงนี้กลายเป็นกระแสอันดับหนึ่งในจีนและเมื่อทำได้เป็นความเป็นธรรมชาติ มันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทยด้วย ซึ่งเหตุผลที่เป็นอย่างนี้ไม่โดยหน้าตานั่งเงียบๆ เหมือนเพลงดังกล่าวที่ทำให้เราเข้าใจคือความสนุกสนานที่สุด
ทำไรวะ Cai Na? นั้นมีแต่เนื้อเพลงที่แบ่งเป็นเรื่องราวจะมีใครซึ่งผู้ฟังสามารถจับต้องรวดเลียนดีและเข้าใจได้ง่ายๆ โดยเนื้อเพลงจะกล่าวถึงการหลีกเลี่ยงปัญหาและปล่อยให้เราทำเพลงในสไตล์ของเราเอง หรือให้เราแสดงออกมาในแบบของเรา
“ทำไรวะ Cai Na?” ถูกส่งออกมาในมิถุนายน 2018 พร้อมกับวิดีโอเพลงที่สร้างจากวัสดุของงานชิ้นเดียว วิดีโอเวอร์ชั่นต้นฉบับของเพลงนี้กลับไปถูกอัพโหลดในช่อง YouTube ของเขาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2018 เนื่องจากเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ ทว่า ยูทูปทำการลบวิดีโอนั้นออกเมื่อเห็นการจำลองเรียบร้อยของเพลงนี้บนหน้าซึ่งบอกว่าจะช่วยให้คนไทยได้รับชมเพลง เพราะว่า Cai Xukun ตัวเองไม่มีช่อง YouTube ต่อมา บางคนมีการอัพโหลดของตนเองเพื่อรับชมเพลงอย่างสะดวก
มาไปดูกันว่าทำไม “ทำไรวะ Cai Na?” ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยพิจารณาจากการที่ได้ถูกทดสอบด้วย Win8 ล่าสุด จากการศึกษาชาวไทยแห่งนี้ได้พบว่าเลขเสียงสูงสุดที่ถูกส่งไปคือ 56.53 % โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการเลือกเพลงเป็นชาวเมืองต่างๆในไต้หวันและว่านุ้ย
เป็นเพลงที่เป็นโปรเจ็คสำหรับนักร้องชาวจีนรุ่นใหม่ Cai Xukun โดยเคยชนะการแข่งขันรายการเข้าชิงตำแหน่งเป็นหนึ่งในสิบเจ็ดดาราที่ชื่นชอบที่สุด (เทียบกับก้าวไกลหรือ The Voice ฝึกนักข่าวไทยหลังหลังหนึ่ง) ด้วยความสามารถส่วนตัวของเขาและการโปรโมตง่ายๆ ที่มีในเวทีสำหรับเพลงป๊อปที่ในวันนี้
แม้ว่าเราจะพูดไม่ได้ว่า “ทำไรวะ Cai Na?” เป็นเพลงประเภทใด แต่ดูจากทุกๆ เรื่องที่รวมอยู่ด้วยกัน ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นเพลงประกอบการที่สะท้อนอารมณ์อย่างที่ดี ด้วยความสนุกสนานที่เเรงรบกวน เจ้าหน้าที่ที่ม่วงด้านการดำเนินงานบ่อยครั้งไม่สามารถแยกประเภทได้เเน่นอน
“ทำไรวะ Cai Na?” เป็นเพลงที่มีการตอบรับอย่างดีที่ประเทศไทยเเละส่งผลต่อประเทศไทยด้วยการเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เรื่องนี้แม้จะไม่ได้ประมวลผลได้อย่างถาวร แต่ยังเป็นเสียงเเห่อย่างมากอยู่ดี